แนวข้อสอบ ความรู้เบื้องต้นของระบบภูมิสารสนเทศ
1. ข้อใดคือความหมายของคำว่า “ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์”
ก. กระบวนการทำงานเกี่ยวกับข้อมูลในเชิงพื้นที่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์
ข. กำหนดข้อมูลและสารสนเทศที่มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งในเชิงพื้นที่
ค. กำหนดข้อมูลและสารสนเทศที่มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งในแผนที่
ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
ตอบ ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System : GIS) หมายถึง กระบวนการทำงานเกี่ยวกับข้อมูลในเชิงพื้นที่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้กำหนดข้อมูลและสารสนเทศที่มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งในเชิงพื้นที่ เช่น ที่อยู่ บ้านเลขที่ สัมพันธ์กับตำแหน่งในแผนที่ ตำแหน่ง ข้อมูล เส้นรุ้ง เส้นแวง และแผนที่ใน GIS เป็นระบบข้อมูลสารสนเทศที่อยู่ในรูปของตารางข้อมูล และฐานข้อมูลที่มีส่วนสัมพันธ์กับข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial Data) ซึ่งรูปแบบและความสัมพันธ์ของข้อมูลเชิงพื้นที่ทั้งหลาย จะสามารถนำมาวิเคราะห์ด้วย GIS และทำให้สื่อความหมายในเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่สัมพันธ์กับเวลาได้ เช่น การแพร่ขยายของโรคระบาด การเคลื่อนย้าย ถิ่นฐาน การบุกรุกทำลาย การเปลี่ยนแปลงของการใช้พื้นที่ ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้เมื่อปรากฏบนแผนที่ทำให้สามารถแปลและสื่อความหมายใช้งานได้ง่าย
2. ข้อแตกต่างระหว่าง GIS กับ MIS คือข้อใด
ก. การพิจารณาจากลักษณะของข้อมูล ข. การพิจารณาจากลักษณะของทรัพยากร
ค. การพิจารณาจากลักษณะภูมิประเทศ ง. การพิจารณาจากลักษณะเชิงพื้นที่
ตอบ ก. การพิจารณาจากลักษณะของข้อมูล
ข้อแตกต่างระหว่าง GIS กับ MIS นั้นสามารถพิจารณาได้จากลักษณะของข้อมูล คือ ข้อมูลที่จัดเก็บใน GIS มีลักษณะเป็นข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial Dat) ที่แสดงในรูปของภาพ (Graphic) แผนที่ (Map) ที่เชื่อมโยงกับข้อมูลเชิงบรรยาย (Attribute Data) หรือฐานข้อมูล (Database) การเชื่อมโยงข้อมูลข้อมูลทั้งสองประเภทด้วยกันจะทำให้ผู้ใช้สามารถที่จะแสดงข้อมูลทั้งสองประเภทได้พร้อมๆ กัน เช่น สามารถจะค้นหาตำแหน่งของจุดตรวจวัดควันดำ-ควันขาวได้โดยการระบุชื่อจุดตรวจ หรือในทางตรงกันข้ามสามารถที่จะสอบถามรายละเอียดของจุดตรวจจากตำแหน่งที่เลือกขึ้นมา ซึ่งจะต่างจาก MIS ที่แสดงภาพเพียงอย่างเดียว โดยจะขาดการเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกับรูปภาพนั้น เช่น ใน CAD (Computer Aid Design) จะเป็นภาพเพียงอย่างเดียว แต่ในแผนที่ใน GIS จะมีความสัมพันธ์กับตำแหน่งในเชิงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์
3. ข้อมูลจาก MIS จะแสดงออกมาในลักษณะใด
ก. แผนที่ ข. ภาพ
ค. ถูกทั้ง ข้อ ก. และ ข. ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ข. ภาพ (ดูคำอธิบายข้อข้างต้น)
4. ข้อใดต่อไปนี้คือองค์ประกอบของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
ก. วัสดุอุปกรณ์ ข. เงินลงทุน
ค. ขั้นตอนการทำงาน ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ค. ขั้นตอนการทำงาน
องค์ประกอบหลักของระบบ GIS จัดแบ่งออกเป็น 5 ส่วนใหญ่ๆ คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (Hardware) โปรแกรม (Software) ขั้นตอนการทำงาน (Methods) ข้อมูล (Data) และบุคลากร (People) โดยมีรายละเอียดของแต่ละองค์ประกอบดังต่อไปนี้
1. อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (Hardware) คือ เครื่องคอมพิวเตอร์รวมไปถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ เช่น Digitizer, Scanner, Plotter, Printer หรืออื่นๆ เพื่อใช้ในการนำเข้าข้อมูล ประมวลผล แสดงผล และผลิตผลลัพธ์ของการทำงาน
2. โปรแกรม (Software) คือ ชุดของคำสั่งสำเร็จรูป เช่น โปรแกรม Arc/Info, MapInfo ฯลฯ ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชั่นการทำงานและเครื่องมือที่จำเป็นต่างๆ สำหรับนำเข้าและปรับแต่งข้อมูล จัดการระบบฐานข้อมูล เรียกค้น วิเคราะห์ และจำลองภาพ
3. ขั้นตอนการทำงาน (Methods) คือ วิธีการที่องค์กรนั้นๆ นำเอาระบบ GIS ไปใช้งาน โดยแต่ละ ระบบแต่ละองค์กรย่อมีความแตกต่างกันออกไป ฉะนั้นผู้ปฏิบัติงานต้องเลือกวิธีการในการจัดการกับปัญหาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับของหน่วยงานนั้นๆ เอง
4. ข้อมูล (Data) คือ ข้อมูลต่างๆ ที่จะใช้ในระบบ GIS และถูกจัดเก็บในรูปแบบของฐานข้อมูลโดยได้รับการดูแลจากระบบจัดการฐานข้อมูลหรือ DBMS ข้อมูลจะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญรองลงมาจากบุคลากร
5. บุคลากร (People) คือ ผู้ปฏิบัติงานซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ เช่น ผู้นำเข้าข้อมูล ช่างเทคนิค ผู้ดูแลระบบฐานข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญสำหรับวิเคราะห์ข้อมูล ผู้บริหารซึ่งต้องใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ บุคลากรจะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในระบบ GIS เนื่องจากถ้าขาดบุคลากรข้อมูลที่มีอยู่มากมายมหาศาลนั้นก็จะเป็นเพียงขยะไม่มีคุณค่าใดเลยเพราะไม่ได้ถูกนำไปใช้งาน อาจจะกล่าวได้ว่า ถ้าขาดบุคลากรก็จะไม่มีระบบ GIS
5.องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์คือข้อใด
ก. โปรแกรม ข. ขั้นตอนการทำงาน
ค. ข้อมูล ง. บุคลากร
ตอบ ง. บุคลากร (ดูคำอธิบายข้อข้างต้น)
6.ลักษณะข้อมูลภูมิศาสตร์ (Geographic Features) แสดงข้อมูลลงบนแผนที่ด้วยวิธีใด
ก. ตัวอักษร (Text) ข. สี (Color)
ค. สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ง. สัญลักษณ์ (Symbol)
ตอบ ก. ตัวอักษร (Text)
ลักษณะข้อมูลภูมิศาสตร์ (Geographic Features)
ปรากฎการณ์ หรือ วัตถุต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ตัวเรา
- สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
- สภาพแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น
แสดงลงบนแผนที่ ด้วย
- จุด (Point)
- เส้น (Line)
- พื้นที่ (Area หรือ Polygon)
- ตัวอักษร (Text)
อธิบายลักษณะสิ่งที่ปรากฎ ด้วย
- สี (Color)
- สัญลักษณ์ (Symbol)
- ข้อความบรรยาย (Annotation)
- ที่ตั้ง (Location)
ลักษณะข้อมูลภูมิศาสตร์จะต้องแสดงถึงที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และที่ตั้งสัมพันธ์ของสถานที่หรือสิ่งต่างๆ บนโลก
7. โลกมีความซับซ้อนเกินกว่าที่จะเก็บข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับโลกไว้ในรูปของข้อมูลด้วยระบบ
คอมพิวเตอร์ จึงต้องเปลี่ยนปรากฏการณ์บนผิวโลกจัดเก็บในรูปของตัวเลขเชิงรหัส (Digital Form)
โดยแทนปรากฏการณ์เหล่านั้นด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เรียกว่า
ก. Faeture ข. Feature
ค. Feeture ง. Faature
ตอบ ข. Feature
ลักษณะข้อมูลในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
โลกมีความซับซ้อนเกินกว่าที่จะเก็บข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับโลกไว้ในรูปของข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ จึงต้องเปลี่ยนปรากฏการณ์บนผิวโลกจัดเก็บในรูปของตัวเลขเชิงรหัส (Digital Form) โดยแทนปรากฏการณ์เหล่านั้นด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เรียกว่า Feature
8.ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์จะใช้ Feature ประเภทต่างๆ ในการแทนปรากฏการณ์โดยแบ่งออกเป็น
กี่กลุ่ม
ก. 1 กลุ่ม ข. 2 กลุ่ม
ค. 3 กลุ่ม ง. 4 กลุ่ม
ตอบ ค. 3 กลุ่ม
ประเภทของ Feature
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เป็นตัวแทนของปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์บนโลกแผนที่กระดาษบันทึกตำแหน่งทางภูมิศาสตร์และแทนสิ่งต่างๆ บนโลกที่เป็นลายเส้นและพื้นที่ด้วยสัญลักษณ์แบบ จุด เส้น พื้นที่และตัวอักษร ในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์จะใช้ feature ประเภทต่างๆ ในการแทนปรากฏการณ์โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1. จุด (Point)
2. เส้น (Arc)
3. พื้นที่ (Polygon)
9.หน้าที่หลักๆ ของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์คือข้อใด
ก. การนำเข้าข้อมูล ข. การปรับแต่งข้อมูล
ค. การบริหารข้อมูล ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
หน้าที่ของ GIS (How GIS Works)
ภาระหน้าที่หลักๆ ของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ควรจะมีอยู่ด้วยกัน 5 อย่าง ดังนี้
1. การนำเข้าข้อมูล (Input) ก่อนที่ข้อมูลทางภูมิศาสตร์จะถูกใช้งานได้ในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ข้อมูลจะต้องได้รับการแปลง ให้มาอยู่ในรูปแบบของข้อมูลเชิงตัวเลข (digital format) เสียก่อน เช่น จากแผนที่กระดาษไปสู่ข้อมูลใน รูปแบบดิจิตอลหรือแฟ้มข้อมูลบนเครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์ที่ใช้ในการนำเข้าเช่น Digitizer Scanner หรือ Keyboard เป็นต้น
2. การปรับแต่งข้อมูล (Manipulation) ข้อมูลที่ได้รับเข้าสู่ระบบบางอย่างจำเป็นต้องได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับงาน เช่น ข้อมูลบางอย่างมีขนาด หรือสเกล (scale) ที่แตกต่างกัน หรือใช้ระบบพิกัดแผนที่ที่แตกต่างกัน ข้อมูลเหล่านี้จะต้องได้รับการปรับให้อยู่ใน ระดับเดียวกันเสียก่อน
3. การบริหารข้อมูล (Management) ระบบจัดการฐานข้อมูลหรือ DBMS จะถูกนำมาใช้ในการบริหารข้อมูลเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพในระบบ GIS DBMS ที่ได้รับการเชื่อถือและนิยมใช้กันอย่างกว้างขวางที่สุดคือ DBMS แบบ Relational หรือระบบจัดการฐานข้อมูลแบบสัมพัทธ์ (DBMS) ซึ่งมีหลักการทำงานพื้นฐานดังนี้คือ ข้อมูลจะถูกจัดเก็บ ในรูปของตารางหลาย ๆ ตาราง
4. การเรียกค้นและวิเคราะห์ข้อมูล (Query and Analysis) เมื่อระบบ GIS มีความพร้อมในเรื่องของข้อมูลแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การนำข้อมูลเหล่านี่มาใช้ให้เกิด ประโยชน์ เช่น
- ใครคือเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินผืนที่ติดกับโรงเรียน ?
- เมืองสองเมืองนี้มีระยะห่างกันกี่กิโลเมตร ?
- ดินชนิดใดบ้างที่เหมาะสำหรับปลูกอ้อย ?
หรือ ต้องมีการสอบถามอย่างง่าย ๆ เช่น ชี้เมาส์ไปในบริเวณที่ต้องการแล้ว
เลือก (point and click) เพื่อสอบถามหรือเรียกค้นข้อมูล นอกจากนี้ระบบ GIS ยังมีเครื่องมือในการวิเคราะห์ เช่น การวิเคราะห์เชิงประมาณค่า (Proximity หรือ Buffer) การวิเคราะห์เชิงซ้อน (Overlay Analysis) เป็นต้น หรือ ต้องมีการสอบถามอย่างง่าย ๆ เช่น ชี้เมาส์ไปในบริเวณที่ต้องการแล้วเลือก (point and click) เพื่อสอบถามหรือเรียกค้นข้อมูล นอกจากนี้ระบบ GIS ยังมีเครื่องมือในการวิเคราะห์ เช่น การวิเคราะห์เชิงประมาณค่า (Proximity หรือ Buffer) การวิเคราะห์เชิงซ้อน (Overlay Analysis) เป็นต้น
5. การนำเสนอข้อมูล (Visualization) จากการดำเนินการเรียกค้นและวิเคราะห์ข้อมูล ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ในรูปของตัวเลขหรือตัวอักษร ซึ่งยากต่อการตีความหมายหรือทำความเข้าใจ การนำเสนอข้อมูลที่ดี เช่น การแสดงชาร์ต (chart) แบบ 2 มิติ หรือ 3 มิติ รูปภาพจากสถานที่จริง ภาพเคลื่อนไหว แผนที่ หรือแม้กระทั้งระบบมัลติมีเดียสื่อต่าง ๆ เหล่านี้จะทำให้ผู้ใช้เข้าใจความหมายและมองภาพของผลลัพธ์ที่กำลังนำเสนอได้ดียิ่งขึ้น อีก ทั้งเป็นการดึงดูดความสนใจของผู้ฟังอีกด้วย
10.ข้อใดคือข้อมูลค่าพิกัดของจุด (Point)
ก. ค่าพิกัด x, y 1 คู่ แทนตำแหน่งของจุด
ข. Vertex (ค่าพิกัด x, y คู่หนึ่งบน arc) เป็นตัวกำหนดรูปร่างของ arc
ค. arc ที่ตัดกันจะเชื่อมต่อกันที่ Node
ง. arc หนึ่งเส้นเริ่มต้นและจบลงด้าน Node
ตอบ ก. ค่าพิกัด x, y 1 คู่ แทนตำแหน่งของจุด
จุด (Point)
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่มีตำแหน่งที่ตั้งเฉพาะเจาะจง หรือมีเพียงอย่างเดียว สามารถแทนได้ด้วยจุด (Point Feature)
- หมุดหลักเขต
- บ่อน้ำ
- จุดชมวิว
- จุดความสูง
- อาคาร ตึก สิ่งก่อสร้าง
ข้อพิจารณาเกี่ยวกับมาตราส่วน
มาตราส่วนแผนที่จะเป็นตัวกำหนดว่าจะแทนปรากฏการณ์บนโลกด้วยจุดหรือไม่
ตัวอย่างลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เป็นจุด
ตัวอย่างเช่น บนแผนที่โลกมาตราส่วนเล็กจะแทนค่าที่ตั้งของเมืองด้วยจุด แม้ว่าในความเป็นจริงเมืองนั้นจะครอบคลุมพื้นที่จำนวนหนึ่งก็ตาม ในขณะเดียวกันบนแผนที่มาตราส่วนที่ใหญ่ขึ้นเมืองดังกล่าวจะปรากฏเป็นพื้นที่และแต่ละอาคารจะถูกแทนค่าด้วยจุด
ข้อมูลค่าพิกัดของจุด
- ค่าพิกัด x, y 1 คู่ แทนตำแหน่งของจุด
- ไม่มีความยาวหรือพื้นที่
11.ข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial Data) มีส่วนประกอบ 2 ส่วน คือ
ก. ข้อมูลเชิงภาพ และ ข้อมูลแบบเวกเตอร์
ข. ข้อมูลแบบแรสเตอร์ และ ข้อมูลอรรถธิบาย
ค. ข้อมูลเชิงภาพ และ ข้อมูลอรรถธิบาย
ง. ข้อมูลแบบเวกเตอร์ และ ข้อมูลแบบแรสเตอร์
ตอบ ค. ข้อมูลเชิงภาพ และ ข้อมูลอรรถธิบาย
ข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial Dat) มีส่วนประกอบ 2 ส่วน คือ
1. ข้อมูลเชิงภาพ (Graphic Data) สามารถแทนได้ด้วย 2 รูปแบบพื้นฐาน
1.1 ข้อมูลแบบเวกเตอร์ (Vector Format)
1.2 ข้อมูลแบบแรสเตอร์ (Rastor Format)
2. ข้อมูลอรรถธิบาย (Attribute Data) เป็นข้อความอธิบายที่มีความสัมพันธ์กับข้อมูลเชิง
ภาพเหล่านั้น เช่น ชื่อถนน ลักษณะ พื้นผิว และจำนวนช่องทางวิ่ง ของเส้นถนนแต่ละเส้น
เป็นต้น
12.ข้อใดต่อไปนี้คือเทคนิคและวิธีการนำเข้าข้อมูล
ก. การนำเข้าข้อมูลเชิงพื้นที่ ข. การนำเข้าข้อมูลเชิงปริมาณ
ค. การนำเข้าข้อมูลเชิงภูมิประเทศ ง. การนำเข้าข้อมูลเชิงลักษณะ
ตอบ ก. การนำเข้าข้อมูลเชิงพื้นที่
เทคนิคและวิธีการนำเข้าข้อมูล
การนำเข้าข้อมูล (Input Data) เป็นกระบวนการบันทึกข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์ การสร้างฐานข้อมูลที่ละเอียด ถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิบัติงานด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ซึ่งจำเป็นต้องมีการประเมินคุณภาพข้อมูลที่จะนำเข้าสู่ระบบในเรื่องแหล่งที่มาของข้อมูล วิธีการสำรวจข้อมูลมาตราส่วนของแผนที่ ความถูกต้อง ความละเอียด พื้นที่ที่ข้อมูลครอบคลุมถึงและปีที่จัดทำข้อมูล เพื่อประเมินคุณภาพ และคัดเลือกข้อมูลที่จะนำเข้าสู่ระบบฐานข้อมูล
1. การนำเข้าข้อมูลเชิงพื้นที่ สำหรับขั้นตอนการนำเข้าข้อมูลเชิงพื้นที่อาจทำได้หลายวิธี แต่ที่นิยมทำกันในปัจจุบัน ได้แก่ การดิจิไทซ์ (Digitize) และการกวาดตรวจ (Scan) ซึ่งทั้ง 2 วิธีต่างก็มีข้อดีและข้อด้อยต่างกัน ไปกล่าวคือการนำเข้าข้อมูลโดยวีกวาดตรวจจะมีความรวดเร็วและถูกต้องมากกว่าวิธีการเข้าข้อมูลแผนที่โดยโต๊ะดิจิไทซ์และเหมาะสำหรับงานที่มีปริมาณมาก แต่การนำเข้าข้อมูลโดยการดิจิไทซ์จะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยกว่าและเหมาะสำหรับงานที่มีปริมาณน้อย
1.1 การใช้เครื่องอ่านพิกัด (Digitizer) เป็นการแปลงข้อมูลเข้าสู่ระบบโดยนำแผนที่มาตรึงบนโต๊ะและกำหนดจุดอ้างอิง(Control Point) อย่างน้อยจำนวน 4 จุด แล้วนำตัวชี้ตำแหน่ง(Cursor) ลากไปตามเส้นของรายละเอียดบนแผนที่
1.2 การใช้เครื่องกวาดภาพ (Scanner) เป็นเครื่องมือที่วัดความเข้มของแสงที่สะท้อนจากลายเส้นบนแผนที่ ผลลัพธ์เป็นข้อมูลในรูปแบบแรสเตอร์ (Raster Format) ซึ่งเก็บข้อมูลในรูปของตาราง1กริดสี่เหลี่ยม (pixel) ค่าความคมชัดหรือความละเอียดมีหน่วยวัดเป็น DPI : Dot Per Inch แล้วทำการแปลงข้อมูลแรสเตอร์เป็นข้อมูลที่เวกเตอร์ที่เรียกว่า Raster to Vecter Conversion ด้วยโปรแกรม GEOVEC for Microstation หรือ R2V
2. การนำเข้าข้อมูลเชิงบรรยาย ข้อมูลเชิงบรรยายที่จำแนกและจัดหมวดหมู่แล้ว นำเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลด้วยแป้นพิมพ์ (Keyboard) สำหรับโปรแกรม PC ARC/Info จะจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของ dBASE ด้วยคำสั่ง Tables ส่วนโปรแกรมจัดการฐานข้อมูลแบบ Relational data base ทั่วๆ ไปบนเครื่อง PC เช่น Foxpro, Access หรือ Excel จำเป็นต้องแปลงข้อมูลให้เข้าอยู่ในรูปของ DBF file ก่อนการนำเข้าสู่ PC ARC/Info
13.ขั้นตอนการนำเข้าข้อมูลเชิงพื้นที่คือข้อใด
ก. การใช้เครื่องวิเคราะห์พื้นที่ ข. การใช้เครื่องหาตำแหน่ง
ค. การใช้เครื่องกวาดภาพ ง. การใช้เครื่องกำหนดพื้นที่
ตอบ ค. การใช้เครื่องกวาดภาพ
ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
14. ลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เป็นเส้นคือข้อใด
ก. อาคาร ตึก สิ่งก่อสร้าง ข. เขตตำบล อำเภอ จังหวัด
ค. โครงข่ายสาธารณูปโภค ง. จุดชมวิว
ตอบ ค. โครงข่ายสาธารณูปโภค
เส้น (Arc)
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่วางตัวไปตามทางระหว่างจุด 2 จุด จะแทนด้วยเส้น (Arc Feature)
ตัวอย่างลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เป็นเส้น
- ลำน้ำ
- ถนน
- โครงข่ายสาธารณูปโภค
- เส้นชั้นความสูง
ข้อจำกัดเกี่ยวกับ Arc
- Arc 1 เส้น มี Vertex ได้ไม่เกิน 500 Vertex โดย vertex ลำดับที่ 500 จะเปลี่ยนเป็น node และเริ่มต้น เส้นใหม่ด้วยการ identifier ค่าใหม่โดยอัตโนมัติ
ข้อมูลค่าพิกัดของ Arc
- Vertex (ค่าพิกัด x, y คู่หนึ่งบน arc) เป็นตัวกำหนดรูปร่างของ arc
- arc หนึ่งเส้นเริ่มต้นและจบลงด้าน Node
- arc ที่ตัดกันจะเชื่อมต่อกันที่ Node
- ความยาวของ arc กำหนดโดยระบบค่าพิกัด
15.ระบบภูมิสารสนเทศ (Geo-Informatics หรือ Geomatics) เป็นเทคโนโลยีที่ได้นำมาใช้ในหน่วยงาน
ใดต่อไปนี้
ก. การบริหารจัดการ และติดตามทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
ข. งานด้านสังคม และติดตามสิ่งแวดล้อม
ค. การบริหารจัดการ และติดตามทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
ง. งานด้านสังคม และติดตามสิ่งแวดล้อม
ตอบ ค. การบริหารจัดการ และติดตามทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
ระบบภูมิสารสนเทศ (Geo-Informatics หรือ Geomatics) เป็นเทคโนโลยีที่รู้จักกันมากขึ้น สำหรับหน่วยงาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ และติดตามทรัพยากรสิ่งแวดล้อม เช่น ทรัพยากรที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือทรัพยากรที่มนุษย์สร้างขึ้น
16.Wisconsin State Cartographer’ Office ได้ให้ความหมายของคำว่า “ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์” ว่า
อย่างไร
ก. GIS เป็นระบบของคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และวิธีการที่ออกแบบมาเพื่อการจัดเก็บการจัดการ การจัดทำ การวิเคราะห์ การทำแบบจำลอง
ข. ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ประกอบไปด้วยฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล หน่วยงานหรือองค์กร และผู้เชี่ยวชาญ ทำงานร่วมกันในการวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์
ค. เป็นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในการรวบรวมข้อมูล กรรมวิธีข้อมูล การวิเคราะห์ การแปล ตีความหมาย เพื่อให้เราสามารถสร้างภาพและเข้าใจข้อมูลเชิงพื้นที่ของโลก
ง. ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ หมายถึง กระบวนการใช้คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการจัดเก็บข้อมูล
ตอบ ข. ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ประกอบไปด้วยฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล หน่วยงานหรือองค์กรและผู้เชี่ยวชาญ ทำงานร่วมกันในการวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์
ความหมายของระบบภูมิสารสนเทศ
Federal Interagency Coordinating Committee (1990) กล่าวว่า GIS เป็นระบบของคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และวิธีการที่ออกแบบมาเพื่อการจัดเก็บการจัดการ การจัดทำ การวิเคราะห์ การทำแบบจำลอง และการแสดงข้อมูลเชิงพื้นที่เพื่อการแก้ปัญหาการวางแผนที่ซับซ้อน และปัญหาในการจัดการ
Wisconsin State Cartographer’ Office (2002) กล่าวว่า ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ประกอบไปด้วยฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล หน่วยงานหรือองค์กร และผู้เชี่ยวชาญทำงานร่วมกันในการวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์
สุรชัย (2546) กล่าวว่า เป็นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในการรวบรวมข้อมูล กรรมวิธีข้อมูล การวิเคราะห์ การแปล ตีความหมาย การประมวลผล การเผยแพร่ และการใช้ข่าวสารภูมิศาสตร์เพื่อให้เราสามารถสร้างภาพ และเข้าใจข้อมูลเชิงพื้นที่ของโลก (Geospatial Data) ที่เราอาศัยอยู่ได้เป็นอย่างดีทำให้ได้ข่าวสารที่ถูกต้องและทันสมัย สามารถใช้ประกอบและสนับสนุนการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการ การบริหารด้านสาธารณะ และด้านการบริหารเชิงธุรกิจต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปคือ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ หมายถึง กระบวนการใช้คอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Software) ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ (Geographic Data) และการออกแบบ (Personal Design) ในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการจัดเก็บข้อมูล การปรับปรุงข้อมูล การคำนวณ และการวิเคราะห์ข้อมูลให้แสดงผลในรูปของข้อมูลที่สามารถอ้างอิงในทางภูมิศาสตร์ หรือหมายถึง การใช้สมรรถนะของคอมพิวเตอร์ในการจัดเก็บ และการใช้ข้อมูลเพื่ออธิบายสภาพต่างๆ บนพื้นผิวโลก โดยอาศัยลักษณะทางภูมิศาสตร์เป็นตัวเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลต่างๆ
17.ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในประเทศไทย มีการพัฒนาโดยการศึกษาในรูปแบบของงานวิจัยในข้อ
ใดต่อไปนี้
ก. ความลาดชัน (Slope) ข. ความสูง (Elevation)
ค. ทิศด้านลาด (Aspect) ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ในประเทศไทย มีการพัฒนาโดยการศึกษาในรูปของงานวิจัย เช่น การศึกษาการจัดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ดิน (Land-Use) ลักษณะพืชพรรณ (Vegetation Type) ความสูง (Elevation) ความลาดชัน (Slope) ทิศด้านลาด (Aspect) ธรณีวิทยา (Geology) และดิน (Soil) ของพื้นที่ลุ่มน้ำที่ศึกษา
18.การรับรู้จากระยะไกล (Remote Sensing) ปัจจุบันได้นำมาใช้ติดตามทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมใน
การทำงานด้านใด
ก. การเกิดอุทุกภัย ข. การทรุดตัวของแผ่นดิน
ค. การเกิดซึนามิ ง. การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า
ตอบ ก. การเกิดอุทุกภัย
การรับรู้จากระยะไกล (Remote Sensing) ปัจจุบันได้นำมาใช้ติดตามทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมหรือเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น อุทุกภัย วาตภัย ไฟป่า และภัยพิบัติที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น เช่น วินาศกรรม ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้แล้ว เทคนิค Remote Sensing จะสามารถติดตามผลได้อย่างดี
19.คุณสมบัติของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีกี่ลักษณะ
ก. 1 ลักษณะ ข. 2 ลักษณะ
ค. 3 ลักษณะ ง. 4 ลักษณะ
ตอบ ค. 3 ลักษณะ
การรับรู้จากระยะไกล (Remote Sensing - RS) ความหมายและคำนิยามของคำว่า การรับรู้จากระยะไกล (สุรชัย, 2546) กล่าวว่า เป็นวิทยาศาสตร์และศิลปะของการได้มาซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุ พื้นที่หรือปรากฏการณ์จากเครื่องมือบันทึกข้อมูล โดยปราศจากการเข้าไปสัมผัสวัตถุเป้าหมายโดยอาศัยคุณสมบัติของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นสื่อการได้มาของข้อมูล 3 ลักษณะ คือ ช่วงคลื่น (Spectral) รูปทรงสัณฐานของวัตถุบนพื้นผิวโลก (Spatial) และการเปลี่ยนแปลงตามช่วยเวลา (Temporal)
20.ดาวเทียม NAVSTAR มีจำนวนทั้งหมดกี่ดวงที่โคจรอยู่เหนือพื้นโลก
ก. 22 ดวง ข. 24 ดวง
ค. 26 ดวง ง. 28 ดวง
ตอบ ข. 24 ดวง
ดาวเทียม NAVSTAR (NAVigation Satellite and Ranging) มีจำนวนทั้งหมด 24 ดวง ที่โคจรอยู่เหนือพื้นโลก
21.ข้อใดคือส่วนประกอบของระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS)
ก. Space segment ข. Control segment
ค. User segment ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
ตอบ ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS) ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ ส่วนอวกาศ (Space segment) ส่วนสถานีควบคุม (Control segment) และส่วนผู้ใช้ (User segment) ออกแบบและจัดสร้างโดยกองทัพสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้ในการนำทาง
22.หน่วยงานใดเป็นผู้ออกแบบและจัดสร้างระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS)
ก. กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ข. กระทรวงกลาโหมราชอาณาจักร
ค. กองทัพสหรัฐอเมริกา ง. กองทัพราชอาณาจักร
ตอบ ค. กองทัพสหรัฐอเมริกา
ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
23.ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สามารถรวบรวมข้อมูลประเภทใดเข้าด้วยกันเพื่อสร้างแผนที่ รายงาน
จัดเก็บบันทึก และอธิบายข้อมูลอ้างอิงตำแหน่งที่ตั้งเพื่อใช้ในการสางแผนอย่างมีระบบ
ก. ข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลชนิดอื่นๆ
ข. ข้อมูลเชิงคุณลักษณะและข้อมูลภูมิประเทศ
ค. ข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลเชิงคุณลักษณะ
ง. ข้อมูลภูมิประเทศและข้อมูลชนิดอื่นๆ
ตอบ ก. ข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลชนิดอื่นๆ
ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์จะช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลเชิงคุณลักษณะและสัมพันธ์กันกับข้อมูลเชิงพื้นที่ ดังนั้น ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์สามารถรวบรวมข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลชนิดอื่นๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างแผนที่ รายงาน จัดเก็บบันทึก และอธิบายข้อมูลอ้างอิงตำแหน่งที่ตั้งเพื่อใช้ในการสางแผนอย่างมีระบบ
24.ข้อมูลผลลัพธ์ที่ได้จากระบบสำรวจข้อมูลระยะไกลมักจะถูกนำมาใช้ในการสร้างแบบจำลองเพื่อการ
วิเคราะห์งานในด้านใด
ก. ด้านภูมิประเทศ ข. ด้านสิ่งแวดล้อม
ค. ด้านทรัพยากร ง. ด้านสถิติ
ตอบ ข. ด้านสิ่งแวดล้อม
การนำระบบสำรวจข้อมูลระยะไกลมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย ปัจจุบันพบว่า มีอยู่ในสาขาต่างๆ เช่น ด้านป่าไม้ การเกษตร อุทกภัยวิทยาและแหล่งน้ำ การใช้ที่ดินและสิ่งปกคลุมดิน ธรณีวิทยา และธรณีสัณฐาน ด้านสมุทรศาสตร์และทรัพยากรชายฝั่ง ด้านการทำแผนที่ ภัยธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ข้อมูลผลลัพธ์ที่ได้จากระบบสำรวจข้อมูลระยะไกลมักถูกนำไปผสมผสานกับระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อเป็นปัจจัยหนึ่งที่ใช้ในการสร้างแบบจำลองเพื่อการวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
25.งานด้านใดที่ได้นำระบบสำรวจข้อมูลระยะไกลมาประยุกต์ใช้
ก. ด้านป่าไม้ ข. ด้านการคมนาคม
ค. ด้านเศรษฐกิจ ง. ด้านการสื่อสาร
ตอบ ก. ด้านป่าไม้
ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
26.ประโยชน์ของระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS) คือข้อใด
ก. การนำทางจากที่หนึ่งไปที่อื่นๆ ได้ตามต้องการ
ข. การติดตามการเคลื่อนที่ของคน และสิ่งของต่างๆ
ค. การวัดเวลาที่เวลาที่เที่ยงตรงที่สุด
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ประโยชน์ของระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS) คือ
- หาตำแหน่งใดๆ บนพื้นโลกได้ 24 ชั่วโมง
- การนำทางจากที่หนึ่งไปที่อื่นๆ ได้ตามต้องการ
- การติดตามการเคลื่อนที่ของคน และสิ่งของต่างๆ
- การทำแผนที่ต่างๆ
- การวัดเวลาที่เวลาที่เที่ยงตรงที่สุด
27. ข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลกที่ใช้ในติดตามทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากร
ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น ปัจจุบันมีการพัฒนารายละเอียดของภาพที่แสดงผลมากขึ้นและข้อมูลที่มี
รายละเอียดสูงได้มาจากดาวเทียมดวงใด
ก. ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ LANDSAT-7
ข. ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ ETM+
ค. ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ IKONOS
ง. ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ SPOT-5
ตอบ ค. ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ IKONOS
แผนที่เฉพาะเรื่องได้เกี่ยวข้องทรัพยากรที่ปกคลุมโลกเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อนักธรณีวิทยา นักปฐพีวิทยา นักสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยา สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน ข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลกที่ใช้ในการติดตามทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น ปัจจุบันมีการพัฒนารายละเอียดของภาพที่แสดงผลมากขึ้น จนปัจจุบันมีข้อมูลที่มีรายละเอียดปานกลาง เช่น ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ LANDSAT-7 ETM+ หรือ SPOT-5 และข้อมูลที่มีรายละเอียดสูง เช่น ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ IKONOS, QUICKBIRD รายละเอียดของข้อมูลแผนที่เฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการติดตามทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของโลกมีปริมาณมากขึ้น ซึ่งในยุคดังกล่าวมนุษย์ได้พบกับอุปสรรคของปริมาณข้อมูลที่มีจำนวนมากขึ้น และขณะเดียวกันข้อมูลเชิงปริมาณที่ต้องใช้ในการวิเคราะห์ขนาดของพื้นที่ก็ยังขาดเทคนิคในการวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ และการวิเคราะห์ทางสถิติที่เหมาะสมด้วย
28.ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก อาศัยสิ่งใดในการหาตำแหน่งบนพื้นโลก
ก. คลื่นไฟฟ้า และรหัสที่ส่งมาจากดาวเทียม NAVSTAR
ข. คลื่นวิทยุ และรหัสที่ส่งมาจากดาวเทียม NAVSTAR
ค. คลื่นแม่เหล็ก และรหัสที่ส่งมาจากดาวเทียม NAVISTAR
ง. คลื่นสนามแม่เหล็ก และรหัสที่ส่งมาจากดาวเทียม NAVISTAR
ตอบ ข. คลื่นวิทยุ และรหัสที่ส่งมาจากดาวเทียม NAVSTAR
ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (Global Positioning System - GPS) เป็นระบบนำร่องโดยอาศัยคลื่นวิทยุ และรหัสที่ส่งมาจากดาวเทียม NAVSTAR (NAVigation Satellite Timing and Ranging) จำนวน 24 ดวง ที่โคจรอยู่เหนือพื้นโลก สามารใช้ในการหาตำแหน่งบนพื้นโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกๆ จุดบนผิวโลก ในทศวรรษที่ผ่านมาเทคโนโลยีด้านการสำรวจรังวัดด้วยดาวเทียม GPS มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ในปี พ.ศ. 2536 และมีการประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวาง
29.องค์ประกอบหลักของระบบภูมิสารสนเทศคือข้อใด
ก. การรับรู้จากระยะไกล ข. ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก
ค. ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
ตอบ ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
องค์ประกอบหลักของระบบภูมิสารสนเทศ
ระบบภูมิสารสนเทศได้นำมาใช้ในการบริหารและจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในชุมชนหรือท้องถิ่น เป็นการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาผสมผสานร่วมกันเพื่อเสริมประสิทธิภาพของการนำเข้าข้อมูลที่ได้รับมาวิเคราะห์ในเชิงซับซ้อนมากขึ้น เพื่อจำลองปัจจัย หรือเหตุการณ์ให้ใกล้เคียงสภาพความเป็นจริงบนพื้นผิวโลก เหนือพื้นโลก และใต้พื้นโลก โดยเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในระบบภูมิสารสนเทศนั้นล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลเชิงพื้นที่ที่ตำแหน่งอ้างอิงบนพื้นผิวโลกแทบทั้งสิ้น
การรับรู้จากระยะไกล (Remote Sensing) ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงทรัพยากรธรรมชาติ หรือสิ่งปกคลุมพื้นผิวโลกได้อย่างทันสมัย และทันเหตุการณ์
ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS – Global Positioning System) ในพื้นที่ห่างไกลต่อการเข้าถึงของยานพาหนะที่มนุษย์ต้องการเข้าไปสำรวจ ติดตามทรัพยากรบนโลกที่เกิดขึ้นใหม่ หรือต้องการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล เทคโนโลยีระบบกำหนดตำแหน่งบนโลกโดยใช้ดาวเทียม จีพีเอส เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้มนุษย์ทราบถึงค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์ ตำแหน่งวัตถุ และทรัพยากรอยู่ในตำแหน่งใดที่สามารถจัดให้อยู่ในระบบพิกัดทางภูมิศาสตร์เดียวกัน
ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS – Geographic Information Systems) คือระบบที่มนุษย์นำมาใช้ในการบริหารจัดการฐานข้อมูลที่ได้จากการรับรู้ระยะไกล (Remote Sensing) และระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS) โดยนำเข้าข้อมูลมาวิเคราะห์ในรูปแบบเชิงพื้นที่ซึ่งแต่ละพื้นที่จะประกอบไปด้วยฐานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ ตัดสินใจในการแก้ไข วางแผนการบริหารจัดการ ตามเงื่อนไขที่มนุษย์จะเป็นผู้ดำเนินการ และสามารถแสดงผลการวิเคราะห์ตามเงื่อนไขที่กำหนดได้ในรูปแบบสองมิติ และสามมิติ เพื่อจำลองสภาพภูมิประเทศให้ใกล้เคียงกับพื้นที่จริง ระบบภูมิสารสนเทศจึงได้มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
30.ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม GPS อย่างรวดเร็ว คือ เครื่องมีขนาดเล็กลง ราคา
ถูก และมีขีดความสามารถสูงขึ้น และในปัจจุบันได้มีการผลิตเครื่องรับสัญญาณติดตั้งร่วมอุปกรณ์
อื่นๆ ในข้อใดต่อไปนี้
ก. โทรทัศน์ ข. คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
ค. คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ง. โทรศัพท์มือถือ
ตอบ ง. โทรศัพท์มือถือ
ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเครื่องรับสัญญาณดาวเทียม GPS อย่างรวดเร็ว คือ เครื่องมีขนาดเล็กลง ราคาถูก และมีขีดความสามารถสูงขึ้น และในปัจจุบันได้มีการผลิตเครื่องรับสัญญาณติดตั้งร่วมอุปกรณ์อื่นๆ เช่น นาฬิกาข้อมูล โทรศัพท์มือถือ และการติดตั้งเพื่อการนำร่องในรถยนต์ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาให้สามารถใช้งานในอาคารหรือในบริเวณที่มีการปิดกั้นสัญญาดาวเทียม (Indoor GPS)
31.ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในข้อใด
ก. ข้อมูลเชิงภูมิประเทศ ข. ข้อมูลเชิงพื้นที่
ค. ข้อมูลเชิงคุณลักษณะ ง. ข้อมูลเชิงวิเคราะห์
ตอบ ข. ข้อมูลเชิงพื้นที่
ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial Data) โดยข้อมูลลักษณะต่างๆ ในพื้นที่ที่ทำการศึกษาจะถูกนำมาจัดให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันและกัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับชนิดและรายละเอียดของข้อมูลนั้นๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามต้องการ
ระบบสารสนเทศ จะอ้างอิงจากระบบพิกัดภูมิศาสตร์ขององค์ประกอบข้อมูลเชิงพื้นที่ของพื้นผิวโลก (Graphic หรือ Feature) ภูมิประเทศ (Features) อาจจะถูกแบ่งออกเป็นหลายชั้นข้อมูล (Layers) ที่จัดเก็บข้อมูลเชิงคุณลักษณะ (Attribute Data) ที่บรรยายถึงรูปร่างลักษณะของข้อมูลเชิงพื้นที่บนแผนที่ข้อมูลเชิงคุณลักษณะเหล่านี้จะจัดเก็บในรูปแบบฐานข้อมูลซึ่งจะแยกออกจากข้อมูลเชิงพื้นที่ แต่ยังคงมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน และสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทั้งข้อมูลเชิงพื้นที่และข้อมูลเชิงคุณลักษณะในเวลาเดียวกัน
32.การสำรวจรังวัดด้วยดาวเทียม GPS มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดให้บริการ 24 ชม.ในปีใด
ก. พ.ศ. 2536 ข. พ.ศ. 2537
ค. พ.ศ. 2538 ง. พ.ศ. 2539
ตอบ ก. พ.ศ. 2536
33.มนุษย์ได้นำคอมพิวเตอร์เข้ามาผลิตแผนที่ทำให้การผลิตแผนที่เริ่มมีระบบมากขึ้น นอกจากการผลิต
แผนที่ให้ได้ความสวยงามผ่านหน้าจอแสดงผล มนุษย์ยังสามารถสอบถามข้อมูลต่างๆ ได้เช่นในข้อ
ใดต่อไปนี้
ก. แหล่งที่ตั้งของสถานที่สำคัญ ข. ข้อมูลจำนวนประชากร
ค. ถูกทั้ง ข้อ ก. และ ข. ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. ถูกทั้ง ข้อ ก. และ ข.
มนุษย์ได้นำคอมพิวเตอร์เข้ามาผลิตแผนที่ทำให้การผลิตแผนที่เริ่มมีระบบมากขึ้น นอกจากการผลิตแผนที่ให้ได้ความสวยงามผ่านหน้าจอแสดงผล มนุษย์ยังสามารถสอบถามข้อมูลต่างๆ เช่น แหล่งที่ตั้งของสถานที่สำคัญ ข้อมูลจำนวนประชากร การอพยพย้ายถิ่นฐานของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการวิเคราะห์หาพื้นที่ที่ถูกผลกระทบหากเกิดภัยธรรมชาติ โดยสิ่งที่มนุษย์คาดการณ์ผ่านระบบแผนที่บนคอมพิวเตอร์เป็นส่วนที่ช่วยในการวางแผนพัฒนาชุมชนของตนเองได้ และสามารถเตรียมการระวังภัยของชุมชนตัวเองได้
34.ผู้ที่นำระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS) ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานแผนที่ต่างๆ จะได้ผลลัพธ์
ของการกำหนดตำแหน่งออกมาในรูปแบบใด
ก. เส้นทางการเคลื่อนที่ ข. จุดตำแหน่ง
ค. เส้นเชื่อมโยงจุดตำแหน่ง ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ผู้ที่นำระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS) ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานแผนที่ต่างๆ จะได้ผลลัพธ์ของการกำหนดตำแหน่งออกมา 3 รูปแบบ คือ จุดตำแหน่ง (Waypoints) เส้นทางการเคลื่อนที่ (Tracks) และเส้นเชื่อมโยงจุดตำแหน่ง (Routes)
#คลิ๊กดูแนวข้อสอบราชการที่ www.โหลดแนวข้อสอบราชการ.com
#รวมข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมโดยอาจารย์ของสถาบัน
#เจาะลึกครอบคุมตรงประเด็น เนื้อหาสาระสำคัญ ข่าวสารทันโลก
#จำหน่ายแนวข้อสอบมานานกว่า 10 ปี การรันตีจากผู้สอบติดมากมาย
#รวมหนังสือหรือไฟล์ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งติว
แนวข้อสอบมี 2 รูปแบบ
1.แบบที่ 1 รอรับได้เลย ราคาเพียง 399 บาท (รอรับ 1-2 ชม หลังโอน)
2.แบบที่ 2 หนังสือ **ฟรี MP3** ราคา 699 บาท (ส่งฟรีขนส่งเอกชน)
ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ
โทร: 082-8551615 (คุณปาณิสรา)
Line ID : Panisara_test หรือคลิ๊กสั่งซื้อทันที
ชำระค่าสินค้าและบริการ
-ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 983-0-97701-3
-ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 549-2-17930-4
(ชื่อบัญชี ปาณิสรา พระกาย ออมทรัพย์ )